อสังหาฯชายแดนใต้คึกคักกลุ่มทุนแห่ผุดโครงการรับเออีซี
ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
แต่บรรยากาศการลงทุนกลับมีความเคลื่อนไหวในมุมที่น่าสนใจไม่น้อย
โดยเฉพาะการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 2
ปีที่ผ่านมา ปัจจัยหลักที่
ผลักดันให้โครงการก่อสร้างบ้านที่อยู่อาศัยในเขตตัวเมืองปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
มีความคึกคักจากราคายางพาราที่สูงเกินกิโลกรัมละ 100
บาทเมื่อปี 2554
นายปกรณ์ ปรีชาวุฒิเดช
ประธานคณะกรรมการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ
สภาที่ปรึกษาการบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สปต.) กล่าวว่า
ช่วงเวลาดังกล่าวทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาฯ
เปิดตัวโครงการบ้านที่อยู่อาศัยออกมาจำนวนมาก ทุกโครงการได้รับตอบรับเป็นอย่างดี
โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เริ่มที่ราคา 2.8
ล้านบาท
"สัญญาณความคึกคักโครงการที่อยู่บ้านอาศัยในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ในช่วง
2 ปีที่ผ่านมา
ขณะนี้แรงซื้อของตลาด ในพื้นที่ ยังคงมีสูงส่งผลให้ราคาที่ดิน เขตเมืองยะลา
นราธิวาส และปัตตานี ขยับสูง" นายปกรณ์ กล่าว หากมองระยะใกล้ช่วงปี 2558
การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)
ยิ่งทำให้พื้นที่ชายแดนภาคใต้มีความน่าสนใจแง่การลงทุน
เพราะความได้เปรียบเรื่องภาษา
การสื่อสารของชาวมลายูมุสลิมในพื้นที่ชายแดนภาคใต้
สามารถเชื่อมโยงการสื่อสารกับประชากร 300 ล้านคนในภูมิภาคนี้ โดยใช้ภาษาบาฮาซา
ยิ่งทำให้กลุ่มทุนให้ความสนใจพื้นที่แห่งนี้มากขึ้น
เมื่อพิจารณาแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยเฉพาะโครงการที่มีการลงทุนนำร่องโดยรัฐเพื่อสร้างงานสร้างอาชีพให้คนในพื้นที่
ยิ่งกระตุ้นความน่าสนใจของ นักลงทุนต่างประเทศพัฒนาการลงทุนสู่ประตูอาเซียน
สำหรับโครงการ "ปัตตานีจายา" ทุนขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ปัตตานี
ริมถนนสายที่ 42 ปัตตานี-นราธิวาส ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี
บนเนื้อที่ 1,300 ไร่ ภายใต้การบริหารงานโดย บริษัท ปัตตานี
จายา โฮลดิ้ง จำกัด ถือเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้เกิดความคึกคักในพื้นที่
ขณะเดียวกัน ยังมีความเคลื่อนไหว
จากกลุ่มเอกชนในพื้นที่ยะลา ของกลุ่มทุนจากส่วนกลาง เช่น เครือเซ็นทรัล กรุ๊ป สนใจจะลงทุนในพื้นที่
นายณพพงศ์ ธีระวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท
ชัยวร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในฐานะประธานหอการค้าจังหวัดยะลา
กล่าวว่าแม้สถานการณ์ความไม่สงบจะส่งกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน
แต่ไม่ได้หมายความว่าคนในพื้นที่ต้องอพยพ หรือย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่อื่น
เพียงแค่หาพื้นที่ปลอดภัยมากขึ้น
ทำให้อสังหาฯในพื้นที่เขตเมืองได้รับอานิสงส์ เช่น เขตเมืองยะลาที่ธุรกิจอสังหาฯ
ขยายตัวต่อเนื่อง มาจาก 3
ปัจจัยหลัก คือ 1.คนจากพื้นที่รอบนอกเข้าซื้อที่อยู่อาศัย
เพราะมองว่าเขตเมืองเป็นพื้นที่ปลอดภัย เมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ ปัจจัยที่ 2 ผลพวงของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจาก 3% เหลือ 0.1%
รวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่เหลือเพียง 0.1% ทำให้ต้นทุนภาคธุรกิจอสังหาฯลดลง
จึงสามารถลงทุนโครงการได้มากขึ้น และปัจจัยที่ 3
คือราคาสินค้าเกษตรหลักอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทำให้ มีกำลังซื้อที่อยู่อาศัยได้ไม่ลำบาก
ปัจจุบันที่ดินในพื้นที่เขตเทศบาลราคาเฉลี่ย 4-5
ล้านบาทต่อไร่ ถือว่าสูงกว่าราคาประเมิน 10% ส่วนนอกเขตเทศบาลเฉลี่ย 1 ล้านบาทต่อไร่
ทำให้ที่อยู่อาศัยประเภทบ้านเดี่ยวและอาคารพาณิชย์ขยับตัวตาม โดยเฉพาะย่านสำคัญ
เช่น ตลาดเมืองใหม่ สะเตงนอก ถนนเวฬุวัน ส่วนใหญ่เป็นอาคารพาณิชย์ราคาเริ่มต้น 1.5
-2 ล้านบาท ขณะที่บ้านเดี่ยว
ขยับออกไปพื้นที่ชานเมืองราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 2-3
ล้านบาท
"ด้วยระบบการวางผังเมืองที่ดีของยะลา
ทำให้เอื้อต่อการขยายตัวของ อสังหาฯทำได้ง่าย
นักลงทุนกล้าตัดสินใจผุดโครงการบ้านและที่อยู่อาศัยรองรับ
ความต้องการ"ล่าสุดมีกลุ่มทุนใหญ่เข้าลงทุนห้างสรรพสินค้ากลางเมืองยะลาบ้างแล้ว
เชื่อว่าการขยายตัวของอสังหาฯจะมีส่วนกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในพื้นที่รองรับการเปิดเออีซี"
สำหรับการลงทุนในพื้นที่ 70%
ยัง เป็นทุนในพื้นที่เป็นหลัก ส่วนที่เหลือเป็นทุนจากมาเลเซีย
และกลุ่มตะวันออกกลางที่ เข้ามาในรูปแบบการช่วยเหลือของมูลนิธิ เช่น
โครงการปัตตานีจายา จ.ปัตตานี
กลุ่มเป้าหมาย เน้นเจาะกลุ่มตลาดที่อยู่อาศัยพี่น้องมุสลิมโดยตรง
นายสมศักดิ์ อิสริยะภิญโญ
ประธานอาวุโสหอการค้าจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ขยายตัวของภาคธุรกิจด้านอสังหาฯ
ทั้งสามจังหวัดเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะปัตตานีในช่วง 3
ปีที่ผ่านมา มีโครงการขนาดใหญ่เงินลงทุนกว่า 1,000
ล้านบาทถึง 3 โครงการ เช่น โครงการปัตตานีจายา 6,000
ล้านบาท โครงการปัตตานีเพล ศูนย์การค้าขนาดใหญ่
และโครงการปาร์ควิวที่มีทั้งโรงแรมและอาคารพาณิชย์ครบครัน
นอกจากนี้ ยังมีโครงการขนาดกลาง และเล็กอีกกว่า10
โครงการ ไม่ว่าบ้านเดี่ยว อาคารพาณิชย์ ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม
แต่ละโครงการเปิดขายในราคาที่สูงเช่นเดียวกัน
การโตแบบก้าวกระโดดของอสังหาฯทำให้มั่นใจว่าธุรกิจในภาคส่วนอื่นๆ
เช่น อุตสาหกรรมฮาลาล สามารถโตได้หาก นักลงทุนมั่นใจในการลงทุน
"จุดเด่นของปัตตานีที่สามารถก้าวสู่การแข่งขันระดับอาเซียนเมื่อเปิดเสรีการค้าปี
2558 ได้ นั่นคือแหล่งวัตถุดิบหลักไม่ว่าจะเป็นทางด้านประมง
น้ำมันปาล์ม ยางพารา รวมถึงแหล่งอาหารที่เป็นอาหารฮาลาลที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
ซึ่งจะเป็นยุทธศาสตร์สำคัญดึงนักลงทุนเข้ามาในพื้นที่ได้ในอนาคต" นายสมศักดิ์
กล่าว
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
02 พฤษภาคม 2556
การที่ธุกิจอสังหาฯ 3 ชายแดนใต้ เติบโตขึ้นในช่วง2-3ปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคายางพาราที่สูงขึ้น และมีการผลักดันโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในเขตอำเภอเมืองขึ้น เพราะประชาชนส่วนใหญ่คิดว่าพื้นที่ในเขตเมืองมีความปลอดภัยมากกว่า จึงทำให้มีการต้องการซื้อบ้านมากขึ้น ทำให้ส่งผลที่ดินในเขตเมืองสูงขึ้น รวมทั้งเขตเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล
ตอบลบเป็นเพราะจากสถาะนการณ์ไม่สงบมักเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ชนบทมากกว่า เพราะมีที่กำบังและง่ายต่อการหลบซ่อน ชาวบ้านในชนบทส่วนใหญ่ทำสวนยางพาราเมื่อราคายางพาราสูงขึ้นจึงมีกำลังในการซื้อบ้านในเขตเมืองเพื่อความปลอดภัยของชีวิต